การแข่งขันบิ๊กแมตช์ที่ เดอะ บริดจ์ ในบ้านของ เชลซี ในวันที่ 20 กันยายน 2563 ซาดิโอ มาเน่ พาแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ปราบเชลซีไปได้ 2-0 โดยที่เชลซีปรับหนึ่งตำแหน่ง จากเดิมที่เคยใช้โดยให้ มาเตโอ โควาซิช อยู่ประคองแดนกลางแทน รูเบน ลอฟตัส-ชีค ขณะที่ 2 นักเตะใหม่ชาวเยอรมันอย่าง ติโม แวร์เนอร์ และ ไค ฮาแวร์ทซ์ พร้อมสู้ศึก
ส่วน ติอาโก้ ซิลวา กับ ฮาคิม ซิเย็ค ไม่มีชื่ออยู่ในทีม ส่วนทางด้าน ลิเวอร์พูล เปลี่ยนแนวรับกองหลัง โดยให้ ฟาบินโญ่ อยู่ในตำแหน่งที่เซ็นเตอร์แบ็กแทน โจ โกเมซ ขณะที่กองหน้าแนวรุก ซาลาห์, บ๊อบบี้ และ มาเน่ ลุยถล่มแนวหลังของ เชลซี พร้อมกัน แถม ติอาโก้ อัลกันตาร่า ผู้เล่นใหม่มีชื่อเป็นตัวสำรองด้วย ทว่า ดีโอโก้ โชต้า ยังคงไม่มีส่วนร่วม
ช่วงต้นเกมส์ ลิเวอร์พูล บุกหนักเร่งทำเกมส์ไล่กดดันเชลซี ช่วงนาทีที่ 12 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับบอลริบเส้นไปหน้าเขตโทษ ของเชลซี ให้ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ยิงประตูด้วยขวาหลุดนอกกรอบออกไป
ต่อมาผ่านไปไม่กี่นาที หงส์แดง ลิเวอร์พูล เกือบทำประตูแบบหวาดเสียวโดยที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งหลุดทะลุเข้าไปในเขตอันตรายของเชลซี ก่อนลากหลบแนวหลังของลิเวอร์พูล ที่คอบป้องกันด่านสุดท้ายอย่าง เกปา แล้วเปิดบอลอย่างสวยงานไปหน้าประตูให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ทำประตูแบบระยะประชิด แต่ไปติดบล็อก คริสเตนเซ่น ออกแดนหลังไป
ช่วงกาลางเกมส์ครึ่งแรก ประมาณนาทีที่ 32 มีโอกาสในการทำประตูของเจ้าถิ่นเชลซี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ โขกส่งบอลให้กับ ติโม แวร์เนอร์ รับลูกแล้วยิงทำประหน้าเขตโทษของลิเวอร์พลู แต่พุ่งออหเสาไปชิวเฉียด
แต่เหตุไม่คาดฝัดเกินขึ้น ตอนเฮือกสุดท้ายในครึ่งแรก นาทีที่ 45 เจ้าบ้านอย่างเชลซี ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน จากตังวหะที่ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ดึงผู้เล่นของลิเวอร์พลู ซาดิโอ มาเน่ ที่ลากหลุดเดี่ยวหน้าเขตโทษ ครั้งนี้ผู้ตัดสินได้ขอดู VAR ก่อนตัดสินควักในแดงไล่ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ออกจากสนามไป
หมดครึ่งแรกเสมอ 0-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 50 สามประสานแนวหน้าของลิเวอร์พลูต่อบอลได้สวย โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ไหลบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฝ่าแนวหลังลิเวอร์พลู ตามด้วยโยนบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ โหม่งเช็ดทำประตูอย่างสวยงาม
ลิเวอร์พลู นำสกอไปที่ 1-0
ผ่านมานาทีที่ 54 “หงส์แดง” ย้ำชัยชนะด้วยการทำประตูเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของ เกปา ที่เปิดบอลผิดพลาด โดนซาดิโอ มาเน่แย่งบอลสกัดก่อนเร่งเครื่องวิ่งไปทำประตู ตุงตาข่ายอย่างง่ายดาย
ลิเวอร์พลู นำสกอไปที่ 2-0
นาทีที่ 68 เชลซีเจ้าบ้าน ได้โอกาสทำเกมส์บุกโดย เมสัน เมาท์ ที่ตัดสินใจยิงไกลระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งเฉี่ยวคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 74 เชลซี ได้โอกาสทองได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ติอาโก้ อัลคันทาร่า พลาดทำ ติโม แวร์เนอร์ ล้มลงในเขตโทษ แต่ จอร์จินโญ่ ยิงเดาทางผิดยิงไปติด อลีสซอน เบ็คเกอร์ พุ่งปัดเอาไว้ได้
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมที่ 2-0 จากเจ้าบ้านที่เหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ในช่วงปลายครึ่งแรก ลิเวอร์พลูคว้าชัย ด้วยสกอ 2-0
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เชลซี (4-3-3) : อันเดรียส คริสเตนเซ่น,เกปา อาร์รีซาบาลาก้า – รีซ เจมส์, คูร์ท ซูม่า, มาร์กอส อลอนโซ่ – จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้,ติโม แวร์เนอร์, เมสัน เมาท์, มาเตโอ โควาซิช – ไค ฮาแวร์ทซ์
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซอน เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์,จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – นาบี้ เกอิต้า , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
ติดตามข่าวสารได้ที่ Ufabet911 เว็บ แทงบอล ที่ดีที่สุด สมัครสมาชิก คลิก