ผ่าประเด็น หลังค่ำคืนบิ๊กแมตช์ก่อน ที่ปีศาจแดงเจ๊าสิงห์บลูมันส์ 0-0 โดยเกมนี้จบลงแบบไร้สกอร์ แต่แลกมาด้วยเกมที่สุดมันส์ โดยไฮไลท์เด่นจะพออยู่ที่เกมรับเชลซี และเกมรุกที่บุกไม่หยุดจากแมนฯยู แต่ประเด็นร้อนแรงจะไม่ได้อยู่แค่นั้น โดยเราจะมาผ่าประเด็นร้อน 5 ประเด็นในเกมนี้กัน!
ประเด็นที่ 1 เมนดี้เหนียวสุดๆ
จากการบาดเจ็บของ “เกปา อาร์ซิบาลาก้า” ทำให้นายประตูเกมนี้เลยตกเป็นของ “เอดูอาร์ เมนดี้” ที่เพิ่งสลัดอาการเดี้ยงพอ โดยเจ้าตัวได้ย้ายมาจากแรนส์ ด้วยค่าตัวที่ 22 ล้านปอนด์ โดยตอนแรกแฟรงค์ แลมพาร์ด กะจะซื้อมาเพื่อกดดันตำแหน่งมือ 1 เท่านั้น
ถึงแม้จะซื้อประตูคนนี้ แต่โค้ชยังให้โอกาสเกป้าเสมอ แต่ก็ไม่ได้เป็นผลอะไรนัก เพราะว่าเจ้าตัวยังคงพลาดให้เห็นบ่อยๆ แต่เอดูอาร์ เมนดี้ ยามที่ได้รับโอกาสลงสนาม ก็มักจะทำผลงานได้ดีอยู่เสมอ โดยเจ้าตัวสามารถเก็บคลีนชีตได้ทั้งหมด 3 ครั้ง จากการลงสนาม 3 เกม นับเป็นสถิติแบบ 100% โดยแบ่งเป็นเกมที่เจอกับ พาเลซ , เซาท์แธมป์ตัน และล่าสุดที่เสมอกับเซบีย่า ในเกม UCL เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนนี้
หลังจากฟอร์มเกมนี้ ก็อาจจะทำให้แลมพาร์ดเลือกได้แล้ว ว่าจะให้ใครเป็นตำแหน่งเบอร์ 1 ในตำแหน่งนี้ เพราะว่าเมนดี้ได้โชว์ฟอร์มโหดมาก ทุกคนได้เห็นว่าเข้ามีศักยภาพมากแค่ไหน ในครึ่งแรกมีการโชว์เซฟลูกยิงของแรชฟอร์ด และลูกยิงของมาต้า และครึ่งหลังยังมาโชว์บินเซฟชีวิตเชลซีอีก อีกทั้งจบเกมยังได้ตำแหน่ง Man Of The Match ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่สมควรได้ที่สุด
เอดูอาร์ เมนดี้ กลายเป็นนักเตะคนที่ 2 รองจาก ปีเตอร์ เช็ค ที่สามารถเก็บคลีนชีตในลีคจากการเล่น 2 นัดติด และเป็นผู้รักษาคนที่ 2 นับจาก ติโบ กูร์กตัวส์ ที่สามารถบุกมาเก็บคลีนชีตได้ในถิ่น Old Trafford ตั้งต่เดือนธันวาคม ปี 2015
ประเด็นที่ 2 คาวานี่ไม่ได้มาเล่นๆ
หลังจากที่บอร์ดฯของทีมแมนยูได้โดนด่าอย่างหนัก แต่ก็ได้ตัวของ “เอดิสัน คาวานี่” โดยเซ็นฟรีมาจากทีมปารีสฯ โดยนักเตะคนนี้ถือได้ว่าระดับโลกเลยทีเดียว เป็นการเซ็นที่ไม่มีคำครหา แต่ทว่าเมื่อเซ็นมาก็ไม่สามารถใช้ได้เลย เพราะว่าเจ้าตัวมีการติดเชื้อโควิด 19 ต้องทำการกักตัวก่อน 14 วัน
แมนยูเซ็นคาวานี่เข้ามา โดยนักเตะตัวโหดวัย 33 ปี ได้ถูกเลือกให้สวมเสื้อหมายเลข 7 ซึ่งเป็นตัวเลขตำนานของทีมแมนยู ซึ่งหลายคนอาจจะขยาดกับเบอร์นี้มามากแล้ว เพราะว่าสตาร์แต่ละคนที่ย้ายเข้ามา และทำการสวมเสื้อหมายเลขนี้ ต่างก็ฟอร์มออกทะเลไปกันทุกราย หลังจากที่สตาร์หมายเลข 7 ระดับโลกอย่าง “คริสเตียนโน่ โรนัลโด้” ได้ย้ายออกไป ก็ไม่มีใครสามารถเทียบบารมีเบอร์เสื้อนี้ได้อีกเลย
ในเกมนี้คาวานี่ได้ลงสนามนาทีที่ 57 โดยลงมาแทนดาเนียล เจมส์ โดยคาวานี่เกือบทำประตูแรกได้ จากการสัมผัสบอลครั้งแรกเท่านั้น เพียงแต่บอลดันไปหลุดกรอบเสียก่อน ไม่งั้นจะเป็นการ Debut ที่เพอร์เฟคมากๆสำหรับเจ้าตัว หลังจากนั้นเจ้าตัวก็โชว์ศักยภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการไล่หาพื้นที่ช่องว่าง การจ่ายบอลทำทางให้เพื่อนร่วมทีม อีกทั้งยังมีช็อตลั่นไกใส่เชลซี แต่ทว่าดันไปติดบล็อคของ “ติอาโก้ ซิลวา” ก่อน
แต่โดยรวมแล้วนั้น ยังถือว่าต้องพิสูจน์อีกหน่อย เพื่อให้โชลซาร์ได้เห็นว่า ตัวนักเตะมีศักยภาพในการเล่นตัวจริงมากแค่ไหน แต่เชื่อเลยว่าคาวานี่ยังพกสัญชาตญาณของกองหน้าเพชรฆาตไว้อยู่ ถึงแม้ว่าอายุจะปาไปแล้วที่ 33 ปี หากได้ลงตัวจริงสม่ำเสมอ เชื่อว่าจะยกระดับทีมแมนยูได้มากแน่นอน
ประเด็นที่ 3 ซื้อดอนนี่มานั่งดอง ?
หลังจากที่แมนยูได้ซื้อตัว “ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค” ด้วยค่าตัวที่จำนวน 45 ล้านยูโร นักวิจารณ์หลายคนเชื่อว่าดอนนี่ จะมาเพื่อเพิ่มมิติในเกมรุกแดนกลางมากขึ้น และอาจจะได้การันตีตำจริง แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย ดอนนี่ได้ลงเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น โดยสามารถลงมาทำประตูแค่ 1 ประตู ในการเกมที่พ่ายให้พับพาเลซคาบ้าน
จริงๆแล้วดอนนี่ ถือว่าเป็นนักเตะที่คุณภาพมากคนหนึ่ง ซึ่งการที่เจ้าตัวลงสนามทีไรนั้น จะช่วยให้ทีมมีมิติเกมรุกที่มากกว่าเดิม ด้วยเซ้นต์บอลที่เหนือชั้นกว่าเพื่อนร่วมทีม ยิ่งการได้ประสานงานกับบรูโน่ แฟร์นันส์ ก็ยิ่งทำให้เกมรุกแมนยูฯจัดจ้านไปอีก แฟนบอลปีศาจแดงส่วนมาก ก็ออกมาเรียกร้องให้โซลชาร์ใส่ชื่อ ฟาน เดอ เบค ลงในตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงเสียที หลังจากที่ได้ลงแค่ฐานะตัวสำรองมาหลายเกมแล้ว
หนักไปกว่านั้นเลยก็คือ การที่เจ้าตัวไม่ได้ลงในเกมเลย ในเกมบิ๊กแมตช์ที่ได้พบกับเชลซี ซึ่งโควต้าเปลี่ยนตัวคนสุดท้าย โอเล่กลับเปลี่ยนตัวดาเนี่ยล เจมส์ ลงสนามเสียอย่างนั้น ซึ่งหากได้ ฟาน เดอ เบค ลงสนามในเกมนี้ อาจจะทำให้แมนยูได้เก็บ 3 แต้มในถิ่นก็เป็นได้
และคำวิจารณ์ล่าสุดของตำนานแมนยูอย่าง “ปาทริช เอวร่า” ได้ออกมาตำหนิทีมโดยตรงผ่านสื่อว่า “เราควรสร้างโอกาสแบบเน้น โดยที่ไม่ใช่มาแก้ตัวในช่วง 15 นาทีก่อนจบเกม และผมก็หมายถึง ฟาน เดอ เบค ด้วย คุณซื้อเขามาทำไม ? ถ้าจะให้เข้านั่งอยู่ซุ้มม้านั่งสำรองทุกเกม เขามีศักยภาพมากกว่านักเตะตัวจริงบางคนด้วยซ้ำ” เอวร่ากล่าวหลังจบเกม
ประเด็นที่ 4 ไม่ดีเลยสำหรับผีแดง
ผ่าประเด็น สุดท้าย ต้องบอกเลยไม่ดีมากสำหรับปีศาจแดง ที่พวกเขาได้สร้างสถิติใหม่อีกแล้วในปีนี้ โดยเป็นการที่ไม่สามารถเอาชนะใครได้เลย ยามที่เล่นในบ้านถึง 3 นัดติดต่อกัน โดยครั้งแรกที่ทีมทำได้คือปี 1972-73 หรือว่าต้องย้อนไปไกลถึง 48 ปีก่อนเลยทีเดียว! ซึ่งถ้าหากนับรวมติดต่อกันจากซีซั่นก่อน แมนยูจะได้สถิติไร้ชัยในบ้านที่ 5 นัดติดต่อกัน ซึ่งถึงมาเป็นสถิติที่แย่ที่สุด นับตั้งแต่ในช่วงปี 1990
กลับกันกับเชลซี ที่ได้ทำผลงานเป็นที่น่าพอใจ โดยสามารถเก็บคลีนชีทได้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เสียประตูมาโดยตลอดในเกมเยือน ซึ่งล่าสุดที่ทีมเก็บคลีนชีทเกมเยือนได้ ก็ต้องย้อนไปที่เกมการเจอกันกับเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ผลออกมาเป็น 0-0 ตั้งแต่ช่วงท้ายฤดูกาล 2018-2019
ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ ufabet911 เว็บ แทงบอล ที่ดีที่สุด สมัครสมาชิก คลิก