พี่เป็นสายเขียว อังเดร เชอร์เล่ อดีตแข้งของทีม “สิงห์บลู เชลซี” ในวัย 30 ปี หันตัวมาทำธรกิจกัญชาแล้ว โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอน ที่จะทำการคุยเรื่องธุรกิจ ซึ่งก็จะทำที่ประเทศเยอรมัน โดยมีอดีตเพื่อนร่วมทีมชาติอย่าง “มาริโอ เกิทเซ่” เข้าร่วมธุรกิจนี้ด้วย พร้อมกับช่วยออกเงินไม่อั้น พร้อมลงทุนแบบจัดเต็ม
หลังจากที่ค้าแข้งมานาน ‘เชอร์เล่’ ก็ได้ตัดสินใจ ที่จะผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจ และหันมาทำสายเขียวแทน โดยได้เพื่อนร่วมอาชีพเก่าอย่าง ‘เกิทเซ่’ ได้เข้าร่วมวงแจมด้วย และก็ยังมีหุ้นส่วนอีกคนหนึ่ง นั่นก็คือ ‘วิลล์ ไอ แอม’ Rapper ชื่อดังชาวอเมริกัน ได้เข้าร่วมวงด้วยในงานนี้
สำหรับ อังเดร เชอร์เล่ ได้ทำการประกาศแขวนสตั๊ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้ ท่ามกลางความมึนงงของหลายๆฝ่าย ว่าเจ้าตัวมีอายุแค่ 30 ปีเท่านั้น ยังสามารถยืนระยะเล่นได้อีกอย่างน้อย 2-3 ปี แต่ทำไมถึงเลิกเล่นเร็วแบบนี้ อีกทั้งฝีเท้าของเชอร์เล่ ก็ไม่ใช่ว่าจะห่วยอะไรนัก เพราะว่าเจ้าตัวนั้น ได้การันตีผลงานแชมป์มากมาย รวมไปถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2014
จากสายรายงานข่าว ได้มีการะบุว่า เชอร์เล่ จะทำการลงทุนกับ ‘Sanity Group’ บริษัทที่ทำเกี่ยวกับกัญชา ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมัน มีฐานที่ผลิดอยู่ ณ กรุงเบอร์ลิน ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งจุดประสงค์หลัก ที่ทำการเปิดบริษัทนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าอยากจะให้กัญชา เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในเยอรมัน เพื่อทำการวิจัยผลต่างๆ ทั้งด้านของการรักษาโรค การสกัดตัวยาพิเศษออกมา รวมไปถึงการใช้เป็นยาลดอักเสบ และช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดอีกด้วย
โดยการทำธุรกิจครั้งนี้ จะมีผู้เข้าร่วมมากมาย ไม่ใช่แค่ มาริโอ เกิทเซ่ แต่เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ก็ยังมีแร็ปเปอร์ชื่อดังวัย 45 ปีอย่าง วิลล์ ไอ แอม, นางแบบสาวสวยวัย 24 ปี สเตฟานี่ จีซิงเจอร์, อดีตแข้งเมืองเบียร์วัย 33 ปี เดนนิส อาโอโก้ ก็จะเข้าร่วมวงนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
โดยในตอนนี้นั้น โฆษกประจำ Sanity Group ก็ได้ให้ประกาศกับสื่อเมืองเบียร์อย่าง บิลล์ ว่าตอนนี้ทางของบริษัท ได้ทำการพูดคุยเรื่องงานกับ 2 แข้งชื่อดังเป็นที่เรียบด้วย เกี่ยวกับการร่วมงานกัน แต่ก็ได้มีข่าวหลุดเอาไว้ว่า พวกเขานั้นได้คุยกันตั้งแต่ต้นปี 2020 ที่ผ่านมาแล้ว
สำหรับเชอร์เล่นั้น ถือว่าเป็นนักฟุตบอลคนแรก ที่ก้าวจากนักฟุตบอล ไปทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา แต่ถ้าหากนับเป็นนักกีฬาทั้งหมด เขาจะเป็นคนที่ 2 รองจาก “ไมค์ ไทสัน” นักมวยรุ่นเฮฟวี่เวทชาวอเมริกัน ก็ได้ทำการเปิดบริษัทกัญชามาก่อนแล้วเมื่อปี 2016 โดยใช้ชื่อว่าบริษัท ‘Tyson Holistic’ ซึ่งมีการเปิดเผยตัวเลขรายรับ ที่ทางบริษัทเขาได้รับต่อเดือน จะสูงอยู่ที่จำนวน 500,000 ปอนด์ หรือประมาณ 18.9 ล้านบาท ต่อเดือนเลยทีเดียว
เชื่อว่าแฟนบอลสมัยนี้ อาจจะไม่ค่อยรู้จักนักเตะคนนี้ เพราะว่าช่วงพีคของเขานั้น จะเป็นเวลาที่ค่อนข้างสั้น แต่ทว่าฝีเท้าของเขานั้น ก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน โดยทางเชอร์เล่นั้น จะมีสถิติการเล่นตลอดอาชีพดังนี้
รายการที่ลงเล่น | จำนวนนัดที่ลงสนาม | ประตู | แอสซิสต์ | เวลาที่ลงสนามทั้งหมด |
บุนเดสลีก้า เยอรมัน | 207 | 51 | 38 | 14,773 นาที |
พรีเมียร์ลีค อังกฤษ | 68 | 17 | 2 | 3,406 นาที |
บุนเดสลีก้า U19 | 44 | 22 | – | 3,657 นาที |
UEFA Champions League | 39 | 6 | 3 | 2,063 นาที |
เดเอฟเอ โพคาล | 17 | 5 | 2 | 1062 นาที |
UEFA Europa League | 14 | 4 | 1 | 958 นาที |
คาราบาวคัพ | 5 | 1 | – | 434 นาที |
ยูโรป้าลีค รอบคัดเลือก | 4 | 1 | 2 | 298 นาที |
FA Cup | 2 | – | – | 115 นาที |
โดยในตลอดการค้าแข้งอาชีพ เชอร์เล่ได้ทำการลงสนามทั้งหมด 288 นัด ในนามสโมสรตั้งแต่ปี 2009 และทำประตูไปได้ทั้งหมด 69 ประตู และในการลงเล่นทีมชาตินั้น เขาได้ติดทีมชาติชุดใหญ่นานถึง 7 ปี ลงเล่นทั้งหมด 57 นัด ยิงไปได้ถึง 22 ประตู พร้อมทั้งคว้าแชมป์ต่างๆมากมาย โดยเกียรติประวัติที่สูงที่สุด นั่นก็คือการคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2014 ณ ประเทศบราซิล
และหลังจากที่ประกาศแขวนรองเท้าแล้ว เขาก็ได้ประกาศเลยว่า พี่เป็นสายเขียว อย่างเต็มตัว ไม่แน่ในอนาคตอันใกล้นี้ เราอาจจะได้เห็นนักฟุตบอลมากมาย ผันตัวไปเป็นนักธุรกิจแบบนี้อีกก็เป็นได้!!
ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ ufabet911 เว็บ แทงบอล ที่ดีที่สุด สมัครสมาชิก คลิก