จากการแข่งขันฟุตบอล UEFA Champions League รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันอังคาร ที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมานั้น ซึ่งเป็นการพบกันระหว่างสโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่ระหว่าง เจ้าบุญทุ่มโชว์โหด ปะทะ เฟเรนซ์วารอส
เพียงแค่ได้ลงสนามได้แค่ 10 นาที ทางด้านของเฟเรนซ์วารอส ได้เดินเกมบุกตั้งแต่ต้นเกมและเกือบที่จะได้เห็นประตูแรกจาก ท็อคมัค เอ็นกูเอน ซึ่งเขาสามารถหลุดเดียว และได้ซัดบอลอย่างเต็มข้อส่งบอลเข้าตาข่ายไปได้ เป็นการเล่นเสียงกองเชียร์ได้ตั้งแต่ต้นเกม แต่ทว่าเป็นที่น่าเสียได้ เมื่อทางด้านของกรรมการนั้นได้ตัดสินว่า เป็นการได้ประตูโดยจังหวะที่ล้ำหน้า
พอเข้าเริ่มที่ นาที 17 การเล่นระหว่างสองคู่หูอย่าง อันซู ฟาติ ได้ส่งบอลต่อให้กับทาง เมสซี่ ก่อนที่เมสซี่กัปตันทีมสุดโหด จะส่งบอลเข้าตาข่าย แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่อาจจะผ่านมือของผู้รักษาประตูของ เฟเรนซ์วารอส อย่าง ฟเรนซ์วารอส ไปได้
และเพียงอีกไม่กี่นาทีต่อมา เป็นจังหวะได้บอลของทางด้านทีมที่มาเยือน ได้มีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้งจาก อิสาเอล นักเตะสัญชาติบราซิลเลี่ยน ที่เขานั้นสามารถพาบอลเลี้ยงเข้ากรอบได้และซัดด้วยแข้งซ้าย ทำให้บอลนั้นชนเสาประตูสามเหลี่ยมทองคำไปอย่างจัง เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก
ในนาทีที่ 27 ทางด้านของบาร์เซโลน่า ได้มีโอกาสยิงลูกโทษ ที่ทางด้านนักเตะของ เฟเรนซ์วารอส พลาดสกัดบอลโดย อัดนาน โควาเซวิช ที่ได้สกัดบอลจากการเลี้ยงบอลหลุดเดียวของ ลิโอเนล เมสซี่ ทำให้กรรมการผู้ตัดสิ้นได้เป่านกหวีด ชี้จุดโทษทันที และก็เป็นไปตามคาดเมื่อทางด้านเจ้าบุญทุ่ม ได้ประตูแรกจากการยิงจุดโทษโดย ลิโอเนล เมสซี่ ทำให้ทางด้านของ บาร์เซโลน่า ได้ประตูชัยขึ้นนำไปก่อน 1-0
ในนาทีที่ 36 ทางด้านของบาร์เซโลน่า เกือบจะได้ประตูที่สอง จากการที่ ฟรานซิสโก้ ตรินเกา ได้ส่งบอลยาวอย่างสวยงามให้ อันซู ฟาติ และ อันซู ฟาติ ก็ได้ยิงเพื่อหวังประตู แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ลูกฟุตบอลนั้น ไปติดที่ขาของ เดเนส ดิบุส เสียก่อน
และในนาทีที่ 42 นั้นทางด้านของทัพอาซูลกรา ได้ประตูขึ้นนำได้เป็น 2-0 จากการทำประตูของ แฟร้งกี้ เดอ ยอง และ อันซู ฟาติ ก่อนที่จะหมดเวลาในครึ่งแรก และทำให้ทางบาร์เซโลน่าขึ้นนำเป็น 2-0 ก่อนหมดเวลา
ครึ่งหลังในนาทีที่ 52 ทางด้านของเจ้าบุญทุ่ม ก็สามารถที่จะทำประที่ 3 ได้ ในจังหวะการเล่นของนักเตะแนวหน้าทัพหลักอย่าง เมสซี่ , อันซู ฟาติ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ทำให้ทีมขึ้นนำเป็น 3-0
และในนาทีที่ 68 ทางด้านนักเตะบาร์เซโลน่า ก็ต้องเหลือเพียงแค่ 10 คน เนื่องจาก คราร์ด ปิเก้ นักเตะตำแหน่งกองหลังโดนใบแดง หลังจากที่เขานั้นได้ดึงเสื้อของ ท็อคมัค เอ็นกูเอน ในเขตโทษ จึงทำให้กรรมการเป่านกหวีดชี้ขาดให้เป็นลูกจุดโทษ ซึ่งทางด้านของเฟเรนซ์วารอส ก็สามารถที่จะตีไข่แตกได้เป็น 1-3 จากการยิงจุดโทษของ อีกอร์ คาราติน
ก่อนที่การแข่งขันจะมาถึงช่วงท้ายเกม ในนาทีที่ 82 ซึ่งทางด้านของเจ้าบ้านอย่าง บาร์เซโลน่า ก็สามารถที่จะทำประตูทิ้งห่างได้เป็น 4-1 จากการทำประตูของเปดรี้ นักเตะที่เป็นตัวสำรองที่เพิ่งได้ลงสนามในช่วงท้ายเกม จากการส่งบอล อย่างสวยงาม ของ อุสมาน เดมเบเล่
และในนาทีที่ 89 ทางด้านของเจ้าบ้านก็สามารถทำประตูได้เพิ่มอีก 1 ลูก จากการส่งบอลของ คูตินโญ่ ให้กัปตันทีมเมสซี่ และก่อนที่กัปตันทีมได้ส่งบอลต่อให้กับ อุสมาน เดมเบเล่ ที่เป็นคนทำหน้าที่ทำประตูไปได้อย่างสวยงาม ซึ่งจบการแข่งขันทำให้ทาง เจ้าบุญทุ่มโชว์โหด ได้อย่างสวยงามด้วยสกอร์ 5-1
รายชื่อนักเตะที่ลงสนามของฝั่งทางด้าน บาร์เซโลน่า :เนโต้ ,ลิโอเนล เมสซี่,เซอร์จินโย่ เดสต์, อันซู ฟาติ,เคราร์ด ปิเก้,ฟิลิปเป้ คูตินโญ่,เกลม็องต์ ล็องเล่ต์,ฟรานซิสโก้ ตรินเกา, จูเนียร์ ฟีร์โป , ริกี ปุช และ มิราเล็ม ปานิช
รายชื่อนักเตะที่ลงสนามของฝั่งทางด้าน เฟเรนซ์วารอส : เดเนส ดิบุส , มีร์โต้ อูซูนี่,เกอร์โก้ ลอฟเรนชิช, ท็อคมัค เอ็นกูเอน,มิฮา บลาซิช, ดาวิด ซิเกอร์,อ็นเดร บ็อตก้า,โอเล็กซานเดอร์ ซุบคอฟ, มาร์เซล ไฮส์เตอร์,อีกอร์ คาราติน และ โซมาเลีย
อัพเดทตารางคะแนนของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม G
อันดับ | ทีม | แข่ง | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ได้ | เสีย | ประตู | คะแนน |
1. | บาร์เซโลน่า | 1 | 1 | 0 | 0 | 5 | 1 | 4 | 3 |
2. | ยูเวนตุส | 1 | 1 | 0 | 0 | 2 | 0 | 2 | 3 |
3. | ดินาโม เคียฟ | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 2 | -2 | 0 |
4. | เฟเรนซ์วารอส | 1 | 0 | 0 | 1 | 1 | 5 | -4 | 0 |
ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufabet911 เว็บ แทงบอล ที่ดีที่สุด สมัครสมาชิก คลิก